ช่วงนี้อากาศร้อนจัด แถมแสงแดดแผดเผา โดดแดดแต่ละครั้งผิวแทบไหม้ หรือไม่ก็ทิ้งรอยดำคล้ำให้ดูต่างหน้า อากาศร้อนกายแบบนี้ อาจทำให้หลายคนใจร้อน หัวร้อน ตามสภาพอากาศไปด้วย การมีตัวช่วยดี ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ในยุคที่อากาศร้อนเหมือนซ้อมตกนรกแบบนี้ นอกจากแว่นกันแดด ครีมกันแดด หมวก และ ร่ม “เสื้อกันยูวี” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ที่หลายคนอาจกำลังลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าเสื้อกันยูวีป้องกันแดดได้จริงไหม แล้วถ้าใส่เสื้อกันยูวีแล้วยังต้องใช้ครีมกันแดดหรือเปล่า วันนี้เราเลยขอนำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับเสื้อกันยูวีมาฝาก เพื่อให้ใครที่กำลังสนใจและยังลังเลอยู่ ได้นำไปใช้ประกอบในการตัดสินใจค่ะ
เสื้อกันยูวีคือออะไร
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ในชีวิตประจำวัน มีค่า UPF ที่สามารถป้องกันแสงแดดได้อยู่ด้วย แต่จะป้องกันยูวีได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวัสดุและการผลิตของเสื้อผ้านั้น ๆ
แล้ว UPF คืออะไร ? UPF หรือ Ultraviolet Protection Factor คือ ค่าความสามารถป้องกันรังสียูวีของสิ่งทอ ซึ่งเสื้อผ้าทั่วไปจะมีค่า UPF อยู่ที่ประมาณ 15-50 หากเสื้อผ้าที่มีค่า UPF15 คือ จะมีรังสี 1/15 สามารถเล็ดลอดผ่านเข้าไปสัมผัสกับผิวหนังเราได้ หรือ ประมาณ 2-3% ที่จะได้สัมผัสผิวหนังของเรา และ เสื้อกันยูวีที่มีค่า UPF50 จะมีประสิทธิภาพในกันป้องกันรังสียูวีได้มากขึ้น และถ้า UPF50+ จะยิ่งสามารถป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได้ถึง 98%
ดังนั้น เสื้อผ้ากันยูวี คือ เสื้อผ้าที่มีค่า UPF ตั้งแต่ 50 ขึ้นไป ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ที่มาพร้อมกับแสงแดด โดยมีทั้งเสื้อกันยูวี กางเกงกันยูวี เสื้อคลุมกันยูวี หมวกกันยูวี หรือ ปลอกแขนกันยูวี เป็นต้น
เสื้อกันยูวีป้องกันแสงแดดได้จริงไหม
เสื้อกันยูวี ผ่านการผลิตด้วยอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ใช้วัสดุเส้นใยมีค่า UPF 50 ขึ้นไป จึงทำให้ผ้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงยูวีจากแสงแดดได้มากกว่าผ้าทั่วไป ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแดดเผา ผิวลอกไหม้ และลดความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น คำตอบ คือ ใช่ เสื้อกันยูวีสามารถป้องกันแสงแดดได้จริง แต่จะป้องกันผิวที่ถูกเสื้อผ้าปกคลุมเท่านั้น
เมื่อสวมเสื้อผ้ากันยูวี ยังจำเป็นต้องใช้กันแดดไหม
ถึงแม้ว่าเสื้อกันยูวีสามารถกันแสงแดดได้จริง แต่ยังคงมีบริเวณอวัยวะอื่น ๆ ที่พ้นจากส่วนเสื้อผ้าปกคลุม เช่น ใบหน้า มือ แขน ขา จะยังคงถูกแสงแดดทำร้ายผิวได้อย่างเต็มร้อย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการใช้ครีมกันแดด ป้องกันผิวในส่วนดังกล่าว โดยการใช้กันแดดให้มีประสิทธิภาพ คือ จะต้องทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
เมื่อจะซื้อเสื้อผ้าครั้งต่อไป ลองสังเกตป้ายสินค้าว่ามีค่า UPF เท่าไร เพราะถ้าเสื้อผ้ามีค่า UPF สูงมากเท่าไร จะยิ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน