รู้ไหมว่า เสื้อผ้าที่เราใส่ในแต่ละวัน สามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกของเราในวันนั้นได้!?
ซึ่งในงานวิจัยทางจิตวิทยาหลาย ๆ รายงาน ได้มีการะบุไว้ว่า สีมีอิทธิพลกับความรู้สึกของมนุษย์ เมื่อเรามองเห็นสีต่าง ๆ ก็จะส่งผลค่อความรู้สึกของเราที่แตกต่างกันไป โดยทฤษฎี Enclothed Cognition ซึ่งเป็นแนวคิดทางจิตวิทยาการแต่งตัว ที่ค้นพบโดย 2 นักจิตวิทยา คือ Adam d.Galinsky และ Hajo Adam ได้ร่วมกันทำงานวิจัย และได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Journal of Experimental Social Psychology (2012) โดยจากการศึกษาเรื่องนี้ทำให้พวกเขาพบว่า สีมีอิทธิพลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ และความดันเลือด ทำให้สีเสื้อผ้าส่งผลต่อความรู้สึกและอารมณ์ของเราได้นั่นเอง
การเลือกสีเสื้อผ้าแฟชันใส่ในแต่ละวันก็เช่นกัน บางครั้งเพราะสถานการณ์ แต่บางครั้งอาจเป็นเพราะความรู้สึกในขณะนั้น ๆ จนอาจเลือกสีเสื้อผ้ามาใส่ที่สามารถสื่อถึงอารมณ์ของคุณได้โดยไม่รู้ตัว เรามาดูทางจิตวิทยาการแต่งตัวกันดีกว่า เสื้อผ้าแต่ละสีมีความหมาย และให้ความรู้สึกอย่างไรบ้าง
โทนสีขาว
สีขาว เป็นสีคลาสสิกที่มีแต่พลังงานด้านบวก สื่อความหมายถึง ความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ใสซื่อ ความเรียบง่าย ความปลอดภัย หรือการเริ่มต้นใหม่ การเกิดใหม่ เสื้อผ้าสีขาวจะให้ความรู้สึกถึงความสมดุลและสามัคคี และเป็นสีเสื้อผ้าที่ขายดีไม่เคยตกยุค ไม่ว่าจะกี่สมัย กี่แฟชั่น เสื้อผ้าสีขาวก็ไม่เคยเอาท์ เพราะเสื้อผ้าสีขาวแมทต์ง่ายกับทุกสีและแต่งได้ทุกสไตล์ หากต้องการความเรียบง่าย สงบ และไม่ต้องคิดอะไรเยอะ การเลือกสวมใส่ผ้าสีขาว สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ และสาว ๆ ควรมีเสื้อผ้าสีโทนขาวติดตู้ไว้อย่างยิ่งเลยค่ะ
โทนสีดำ
สีดำ เป็นอีกโทนสีคลาสสิกที่ควรมีติดตู้ เพราะผ้าโทนสีดำให้ความรู้สึกลึกลับ สงบ หรูหรา มีพลังอำนาจ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้ความรู้สึกเซ็กซี่กับผู้สวมใส่ น่าหลงไหล แมชต์ง่ายกับทุกสี แต่งได้ทุกสไตล์ จึงเป็นอีกสียอดนิยม ที่ขายได้ทุกฤดูแฟชั่นแบบไม่เคยตกรุ่น สีดำเป็นโทนสีสากล แต่งตัวง่าย หากนึกอะไรไม่ออก หยิบสีดำสวมใส่ไว้ก่อน และแน่นอนว่าเหล่าแฟชันนิสต้าก็ไม่พลาดที่มีเสื้อผ้าโทนสีดำไว้เป็นไอเทมประจำตู้ผ้า เพราะเมื่อจะต้องออกงานเป็นทางการ เสื้อผ้าสีดำจะช่วยให้ดูสุภาพและเสริมสง่าราศีได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
โทนสีแดง
สีแดง คือ โทนสีที่ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นสีที่สามารถมองเห็นได้เด่นชัดที่สุด สีแดงจึงมักถูกเชื่อมโยงที่แสดงถึงความตื่นเต้น เร้าใจ ความกล้าหาญ มีพลังงานแรงกล้า โดดเด่น กล้าได้กล้าเสีย และน่าหลงไหล แต่ขณะเดียวกัน สีแดงก็ยังถูกใช้เป็นเครื่องหมายเตือนถึงสิ่งอันตรายด้วยเช่นกัน เช่น ไฟแดง กากบาทแดง แม้ว่าสีแดงจะกระตุ้นประสาทเราได้ดีที่สุด ทำให้ตื่นตัวตลอดเวลา แต่ก็เป็นสีที่ทำให้เมื่อยตาได้ง่ายเหมือนกัน หากจ้องมองวัตถุสีแดงเป็นเวลานาน ๆ ส่วนการใส่เสื้อผ้าสีแดง ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ปลุกความมุ่งมั่นในตัวเอง เพื่อให้รู้สึกมีพลัง กล้าเดินไปข้างหน้า เหมาะมากในวันที่ต้องการเสนองาน หรือต้องการให้ตัวเองดูโดดเด่น
โทนสีเหลือง
สีเหลือง คือ สัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์ ให้ความสดใส ร่าเริง มีความสุข และมักจะมีการนำสีเหลืองมาใช้เพื่อสื่อถึงความเมตตา กรุณา และความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้ลองหยิบเสื้อผ้าโทนสีเหลืองมาสวมใส่ เพื่อให้ช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจ เพิ่มความรู้สึกสดใส สนุกสนาน หรือเมื่อต้องการจะทำกิจกรรมอะไรสนุก ๆ อยากสลัดความเศร้าที่มีอยู่ หรือแม้แต่วันที่ต้องการออกไปเที่ยว สีเหลืองก็ถือว่าเป็นสีที่ตอบโจทย์ได้ดี
โทนสีเขียว
สีเขียว เป็นสีที่อยู่ตรงกลางของ Color Spectrum มีความเป็นธรรม แสดงถึงความสมดุลและการฟื้นฟู ช่วยให้รู้สึกได้รับการเยียวยา สงบ ผ่อนคลาย มีเสน่ห์ของความเป็นธรรมชาติ เป็นสีที่สามารถใช้ได้ทุกโอกาส เพราะมีความเป็นกลาง ใช้ได้ทุกเพศ เพราะไม่ดูแมนแบบผู้ชาย หรือหวานจ๋าแบบผู้หญิง และทางจิตวิทยาได้กล่าวว่าสีเขียว สามารถช่วยให้จอประสาทตาผ่อนคลายได้ เพราะเป็นสีที่ของธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว ทำให้ตาของเราไม่ต้องมีการปรับอะไรมากเวลามองสีเขียว
โทนน้ำเงิน ฟ้า
สีน้ำเงิน เป็นสีโทนเย็น ดูสบายตา สบายใจ เป็นสีที่แสดงถึงสติ ปัญญา สงบนิ่ง เยือกเย็น และการจงรักภักดี ทางจิตวิทยาการแต่งตัวบอกว่า การใส่เสื้อผ้าสีน้ำเงิน หรือสีฟ้า จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเราได้ ทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น เหมาะกับการสวมใส่ในวันที่มีการประชุมสำคัญ หรือจะไปสัมภาษณ์งาน และยังเป็นสีที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเหมาะกับการนอนหลับอีกด้วย