ทุกคนรู้และเข้าใจตรงกันว่า ต้องการเงิน ต้องทำงาน และช่องทางรายได้จากการทำงานมี 2 รูปแบบ คือ Active income กับ Passive income ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ Active income Passive income คืออะไร และเจ้าสองตัวนี้ต่างกันอย่างไร งานที่เราทำอยู่จัดว่าเป็นรายได้แบบ Active income หรือ Passive income มีอะไรบ้าง เผื่อไว้เป็นแนวทางอาชีพหรือรูปแบบการใช้ชีวิตให้ตรงกับความต้องการได้อย่างเหมาะสม ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของเจ้าสองตัวนี้กันก่อน

Active income คืออะไร
Active income แปลว่า รายได้จากการทำงาน ดังนั้นต้องทำงาน ใช้แรง สมอง และเวลาเพื่อแลกเงินมา จัดเข้าในรูปแบบ You work for money ซึ่งมีแนวทางหลากหลาย โดยมีต้นทุนคือความรู้ แรงกาย และเวลา เพื่อให้ได้ที่มาของรายได้แบบ Active income คือ เงินเดือน ค่าคอมมิชชันต่าง ๆ รายได้จากการค้าขาย เป็นต้น ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีรายได้ด้วยอาชีพแบบ Active income ได้แก่ ลูกจ้างทั่วไป ระบบเงินเดือน และ รายได้รายวัน เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ วิสาหกิจ วิศวกร แพทย์ ค้าขาย ลูกจ้างรายวัน หรือแม้แต่เจ้าของร้านอาหาร หรือผู้ประกอบการ เพราะเมื่อไรที่หยุดทำงาน สำหรับพนักงานและลูกจ้างจะไม่ได้รับเงินจากนายจ้าง สำหรับผู้ประกอบการหรือแม้แต่เจ้าของร้านค้าก็จะขาดรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน เงินหมุน หรือกำไร ซึ่งสังคมบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นรายได้แบบ Active income

Passive income คืออะไร
Passive income คือ รายได้ที่เกิดจากการใช้แรงและเวลาในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อสร้างทรัพย์สินหรือเงินก้อนขึ้นมา จากนั้นให้ทรัพย์สินและเงินก้อนนั้นทำงานแทนเรา หรือเรียกว่า Money work for you ทำให้เราทำงานน้อยลงหรือไม่ต้องทำงานเลยแต่มีรายได้เข้ามาตลอด

รายได้แบบ Passive income มีอะไรบ้าง
ส่วนใหญ่ รายได้แบบ Passive income เกิดจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คือ การสร้างแล้วให้เช่า (Real Estate) สินทรัพย์ทางการเงิน คือ การลงทุนในรูปแบบหุ้นหรือดอกเบี้ยต่าง ๆ (Financ Assent) สินทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual Assent) เช่น ลิขสิทธิ์เพลง ภาพยนต์ หนังสือ ภาพวาด เครื่องมือเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีงานงานที่เข้าข่ายและนิยมทำในยุคนี้ อย่าง การทำ Affiliate Marketing การรีวิวหรือการโปรโมทสินค้า Internet Marketing การสร้างระบบเพื่อให้เช่าพื้นที่รับฝากโฆษณา คือ ทำเว็บไซต์ให้ดังแล้วรอให้สินค้ามาซื้อเพื่อทำโฆษณา และ การซื้อแฟรนไชส์ (Franchise) ซึ่งเป็นการกระจายธุรกิจตนเอง จัดว่าเป็นรายได้แบบ Passive เช่นกัน

ข้อดีของรายได้แบบ Passive income มีอะไรบ้าง
แน่นอนใคร ๆ ก็ต้องการรายได้แบบ Passive income เพราะไม่ต้องทำงานอะไรมากก็มีรายได้ มีอิสระภาพทางเวลา มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น สามารถทำกิจกรรมได้ตามใจชอบ มีรายได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องห่วงหรือกังวลกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ถูกไล่ออก ถูกเลิกจ้าง เกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือไม่สามารถทำงานต่อไปได้ การมีแหล่งรายได้จาก Passive income ช่วยประคองไม่ให้ตัวเราและครอบครัวเดือดร้อน แม้ในวันที่ไม่สามารถทำงานได้ นอกจากนี้แหล่งรายได้แบบ Passive income สามารถเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานได้ ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับคนในครอบครัว ไม่ว่าเราจะอยู่หรือจากไปแล้วก็ตาม

สรุปความแตกต่างระหว่าง Active income กับ Passive income
Active income ➡ คนส่วนใหญ่ คุณทำงานเพื่อเงิน หยุดทำงานเท่ากับรายได้หยุดเช่นกัน ไม่มีอิสระทางการเงินและเวลา ใช้เวลายาวนาน 40 ปีหรือมากกว่านั้นในการเก็บเงิน เสียสุขภาพกายและสุขภาพจิตจากการทำงานหนักและความเครียดสะสม เงินเก็บกลายเป็นค่ารักษาตัวจากความเจ็บป่วย
Passive income ➡คนส่วนน้อย เงินทำงานเพื่อคุณ ใช้เวลาเพียง 4-5 ปีในการทำงานหนัก มีรายได้เข้ามาตลอดแม้ไม่ทำงาน หยุดทำงานได้ตลอดที่ต้องการ เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลาน มีอิสรภาพทางการเงินและเวลา ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ เกษียณอายุงานได้เร็ว รอรับรายได้และเงินปันผลอยู่ที่บ้าน