Written by 4:00 am ความรู้, สุขภาพ, ไลฟ์สไตล์

โคลิฟอร์ม (Coliform Bacteria) คืออะไร 

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาประกาศเตือนผู้บริโภคให้ระวังเสี่ยงโรคท้องร่วง หลังจากที่ตรวจพบเชื้อโคลิฟอร์ม-อี โคไล (Escherichia coli) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่พบในอุจจาระ ปนเปื้อนในน้ำแข็งหลอดสำหรับรับประทานของบริษัทแห่งหนึ่งย่านวัชรพล แล้วเจ้าเชื้อโคลิฟอร์ม อี โคไล คืออะไร หากมีเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำดื่มจะส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร หาคำตอบได้จากในบทความนี้เลยค่ะ 

โคลิฟอร์มคืออะไร 

โคลิฟอร์ม คือ กลุ่มแบคทีเรียแกรมลบ มีรูปร่างเป็นท่อน ไม่สร้างสปอร์ เจริญเติบโตได้ทั้งที่มีอากาศและไม่มีอากาศ สามารถพบโคลิฟอร์มได้ในแหล่งธรรมชาติ ดิน น้ำ และในลำไส้ของสัตว์เลือดอุ่น และหากมีการปนเปื้อนโคลิฟอร์มในน้ำดื่มหรืออาหารมากเกินไป แสดงว่าอาหารหรือน้ำดื่มไม่สะอาด มีเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ 

ประเภทของโคลิฟอร์ม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1. Fecal coliform หรือ ฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย คือ โคลิฟอร์มที่พบในอุจจาระของมนุษย์และสัตว์เลือดอุ่น เพราะอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ได้แก่ เอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli , E.coli) 

2. Non-fecal coliform หรือ นันฟีคัลโคลิฟอร์ม คือ กลุ่มโคลิฟอร์มอาศัยอยู่ในดินและพืช มีความเป็นอันตรายน้อยกว่าฟีคอลโคลิฟอร์มกลุ่มแรก 

ดังนั้นเชื้อโคลิฟอร์มเกิดจากการที่มีโคคลิฟอร์มในปริมาณมากเกินไป บ่งชี้ว่าอาหารหรือน้ำนั้นไม่สะอาด ไม่ถูกสุขอนามัย อาจมีการปนเปื้อนของอุจจาระ

กลุ่มโคลิฟอร์มแบคทีเรียมีอะไรบ้าง 

  • Escherichia
  • Citrobacter
  • Enterobacter
  • Hafnia
  • Klebsiella 
  • Serratia

คุณสมบัติของเชื้อโคลิฟอร์ม 

ก่อให้เกิดเน่าเสียของอาหาร ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อจากอาหาร เช่น ท้องร่วง ท้องเสีย เป็นไข้ ปวดศีรษะ และอาจเสียชีวิตได้ และสามารถใช้เป็นแบคทีเรียชี้แนะ (Bacteriological indicator) ตรวจสอบมาตรฐานโคลิฟอร์มในอาหารและการปนเปื้อนของน้ำได้ เช่น เอ.แอโรจิเนส (A.aerogenes) 

โรคที่เกิดจากโคลิฟอร์มแบคทีเรีย

อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ปวดท้อง ท้องร่วง ท้องเสีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน 

วิธีป้องกันและการกำจัด coliform 

Young Asian Japanese Mom and Daughter cooking at home. Lifestyle women happy making pasta and spaghetti together for breakfast meal in modern kitchen at house in the morning concept.
  • ผ่านกระบวนการความร้อน เพราะโคลิฟอร์มแบคทีเรียมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นานกว่าจุลินทรีย์อื่น ๆ แต่ไม่ทนความร้อน เช่น ต้มน้ำดื่มให้เดือด ส่วนอาหารปรุงสุกก็นำไปอุ่นก่อนรับประทาน 
  • ผ่านระบบกรองน้ำที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้คลอรีนฆ่าเชื้อในน้ำ โดยความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 0.2 – 0.5 ppm 
  • เก็บอาหารปรุงสุกที่อุณหภูมิต่ำ หลีกเลี่ยงการเก็บอาหารไว้ในบริเวณที่มีอากาศร้อน 4-55 องศา 
  • แยกการเก็บประเภทอาหาร อาหารปรุงสุก อาหารพร้อมปรุง และอาหารดิบ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
  • ผลิตอาหารและปรุงให้ถูกสุขลักษณะตามหลัก GMP (Good Manufacturing Practise) 
(Visited 163 times, 1 visits today)
Close